การสิ้นสุดของ Big Six กับความล้มเหลวที่ไม่น่าจดจำของบางทีม
เมื่อฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก 2025 ปิดฉากลง ดูเหมือนว่า ยุคของทีม Big Six จะจบลงแล้ว เมื่อซีซั่นล่าสุดของ ลีกแดนผู้ดีกลับมาสนุกอีกครั้ง เมื่อทุกทีมมีโอกาสเป็นแชมป์ในแต่ละรายการ ไม่ได้มีเพียงทีมใหญ่หรืออดีตยักษ์ใหญ่เพียงอย่างเดียวที่ทำได้
ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 2017 ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ช่วงสุดท้ายของฤดูกาลนั้นทีมที่จบใน 6 อันดับแรก ได้แก่ เชลซี, สเปอร์ส, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาเป็นตัวเต็งที่จะขึ้นไปอยู่ในอันดับดังกล่าวก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น แม้ว่าเลสเตอร์ ซิตี้จะคว้าแชมป์ได้ในปีก่อนหน้าก็ตาม ซึ่งถือเป็นการฟื้นคืนสถานะเดิมหลังจากปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นของพวกเขา
นี่คือกลุ่มพลัง Big Six ของพรีเมียร์ลีกที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นลีกที่มีผู้เล่นฝีเท้าดีมากที่สุดและอยู่ในจุดสูงสุดที่ไม่สมดุล กับ 6 ทีมแรกที่จบหัวตารางเสมอ แต่ตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบัน ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว…
หากจะพูดถึงกลุ่ม Big Six ที่ทำผลงานได้เกินความคาดหมาย ลิเวอร์พูล คือทีมที่อยู่ในการพูดถึงเป็นอันดับแรก ไม่มีใครคาดคิดว่า การอำลาของ เยอร์เกน คล็อปป์ ที่สโมสรต้องเปลี่ยนกุนซือมาเป็น อาร์เน สล็อต จะไม่ต้องใช้เวลาในการสร้างทีมใหม่เพื่อคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกอังกฤษ เมื่อ สล็อต เข้ามาสานงานต่ออย่างลงตัวเสมือนว่าเขาคุม หงส์แดง มาแล้วอย่างน้อย 3 ซีซั่น จากการพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 20 อย่างยิ่งใหญ่
ส่วน อาร์เซน่อล เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าผิดหวัง จากการที่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์มาตลอดทั้งฤดูกาล แต่สุดท้ายยังคงทลายกำแพงรองแชมป์ไปไม่ได้เสียที
มิเกล อาร์เตต้า พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ เดอะ กันเนอร์ส ได้กลับมาชูถ้วยแชมป์ลีกอีกครั้ง ซึ่งจะว่าไปแล้ว เขาทำได้ดีทีเดียว ทว่ามันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สโมสรประสบความสำเร็จ
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาไม่สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยช่วงกลางซีซั่น ผลงานเวลานั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาต้องเสียแชมป์ต่อ ลิเวอร์พูล
ซิตี้ เจอทั้งปัญหาผู้เล่นสำคัญบาดเจ็บ ส่วนฟอร์มการเล่นก็พร้อมใจกันดร็อปลงไปในช่วงเวลาเดียวกันจนถึงขั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้แต่ส่ายหัวหลังจบแมตช์ในแต่ละเกม แม้สุดท้าย ซิตี้ จะทำได้ดีขึ้นในเลกสอง และทำให้พวกเขาได้ไปต่อใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า แต่ก็ไม่เพียงพอต่อทีมระดับพวกเขาที่ต้องการถ้วยแชมป์เป็นตัวบ่งบอกความสำเร็จ
ด้าน เชลซี ต้องบอกว่าพวกเขาตัดสินใจได้ดีกับการดึง เอ็นโซ่ มาเรสก้า เข้ามาคุมทัพ แม้ช่วงแรกจะเจอปัญหาการเสริมผู้เล่นจนล้นทีม และฟอร์มช่วงปรีซีซั่นค่อนข้างน่าปวดหัว แต่หลังจากนั้น มาเรสก้า แสดงให้เห็นถึงฟุตบอลของเขาพร้อมๆ กับพา เชลซี ทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอ แม้จะมีบางช่วงเวลาที่หลุดมาตรฐานไปข้างก็ตาม แต่ท้ายที่สุด พวกเขายังคงคว้าแชมป์ติดมือคือ คอนเฟอร์เรนซ์ลีก และกลายเป็นทีมแรกที่คว้าถ้วยยุโรปครบ 4 รายการ
เพื่อนร่วมลอนดอนอย่าง สเปอร์ส ถือว่าน่าผิดหวัง แต่ก็น่าเห็นใจสำหรับ อังเก้ ปอสเตโคกลู เมื่อสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องจบอยู่ท้ายตารางคือปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บค่อนทีมมาตลอดซีซั่น แต่ อังเก้ ก็กู้ศรัทธาแฟนบอลด้วยการคว้าถ้วย ยูโรป้าลีก จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

และแน่นอนว่า ทีมที่น่าผิดหวังที่สุดของกลุ่ม Big Six หนีไม่พ้น ปีศาจแดง นี่คือฤดูกาลแห่งความล้มเหลวของพวกเขาอย่างแท้จริง
พวกเขาย่ำแย่สุดๆ กับฟอร์มในลีก ก่อนจะชวดถ้วยเดียวที่พอให้ได้ลุ้นอย่าง ยูโรป้าลีก ตามด้วยการข้ามน้ำข้ามทะเลมาแพ้ ทีมรวมสตาร์อาเซียน 0-1 จน รูเบน อโมริม ได้แต่ส่ายหัวกับฟอร์มของทีมท่ามกลางข่าวลือภายในที่ไม่สู้ดีนักในความสัมพันธ์ของผู้เล่น และโค้ช
“มันสร้างความเสียหายอย่างมาก” อโมริม กล่าวกับสื่ออย่าง TNT Sports “พูดตามตรง ฤดูกาลนี้มันไม่ดีพอ ในฐานะนักเตะของทีม คุณต้องตั้งคำถามว่าเราดีพอสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือไม่ ฤดูกาลนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ”
ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เพียงแต่ต้องรับมือกับการขาดแคลนถ้วยรางวัลความสำเร็จในฤดูกาลนี้เท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมรับมือกับเงินที่ลดลงและการออกจากทีมเพื่อปฏิบัติตามกฎการเงินแฟร์เพลย์อีกด้วย
ผู้เล่นเก่าหลายคน เช่น คริสเตียน เอริคเซ่น, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, จอนนี่ อีแวนส์ ต่างก็หมดสัญญาในปีนี้ ส่วนคาเซมิโร่ซึ่งตอนนี้มีปัญหาเรื่องอายุ จะออกจากทีมในช่วงปลายปี 2026 และอาจมีอีกหลายคนที่ต้องออกจากทีม
โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังคงเป็นโรงละครแห่งความฝัน แต่หากไร้ซึ่งความสำเร็จใดๆ มาสู่ทีม ก็คงเป็นได้แค่ฝันร้ายสำหรับสโมสรแห่งนี้…
และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ พรีเมียร์ลีก 2025 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ข่าวฟุตบอลอังกฤษ สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน